ม.นเรศวร จับมือ บ.ออริกจิ้น เว็นเจอร์ จำกัด ร่วมสร้างธุรกิจจากผลงานวิจัยและนวัตกรรมฯ

18 กรกฎาคม 68
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 มหาวิทยาลัยนเรศวร โดย กองการถ่ายทอดเทคโนโลยีและบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อการร่วมสร้างธุรกิจ (VENTURE CO – CREATION AGREEMENT) ระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวร และบริษัท Origgin Ventures จำกัด (บริษัท ออริกจิ้น เว็นเจอร์ จำกัด) เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของมหาวิทยาลัยนเรศวรไปสู่เชิงพาณิชย์ รวมถึงมีความคาดหวังที่จะได้มีโอกาสในการร่วมลงทุนระหว่างกันในอนาคต ผลงานวิจัย “Biosurfactant” สารลดแรงตึงผิวชีวภาพ โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณิชากร คอนดี คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้วิจัย โดยได้รับเกียรติจาก ดร.พิสุทธิ์ อภิชยกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร และ Yi- Chyi Lum CEO of Origgin Ventures Thailand เป็นผู้ลงนาม รวมถึง ศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรหญิงกรกนก อิงคนินันท์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร และ คุณภูสิทธิ จิตต์จารึก Venture Creator of Origgin Ventures Thailand ร่วมเป็นพยาน ณ ห้องประชุมมหาราช ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (KNECC) ชั้น 2 มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายในงานการประชุมวิชาการระดับชาติ “นเรศวรวิจัยและนวัตกรรม” ครั้งที่ 21 “Research & Innovation Synergy : Collaborating for a Sustainable Future”

>> นักวิจัยไทยพลิกวัสดุเหลือทิ้งการเกษตรด้วยแบคทีเรียศักยภาพสูง สู่นวัตกรรม “Biosurfactant” ที่ปลอดภัย ใช้ได้จริงในหลากหลายอุตสาหกรรม ประเทศไทยมีเศษวัสดุเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรจำนวนมหาศาลในแต่ละปี ซึ่งมักถูกกำจัดด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม เช่น การเผาในที่โล่ง หรือถูกนำไปขายต่อในราคาต่ำ ทำให้ของเหลือใช้เหล่านี้ยังไม่ถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งยังสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน ด้วยปัญหาดังกล่าว ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณิชากร คอนดี และทีมวิจัยจาก คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้พัฒนานวัตกรรมการใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือทิ้ง ด้วยการค้นพบแบคทีเรียสายพันธุ์ศักยภาพสูงที่สามารถผลิต “Biosurfactant” – สารลดแรงตึงผิวชีวภาพที่มีความปลอดภัยสูงและเสถียรมากกว่ากลุ่มเดิม โดยใช้วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรเป็นวัตถุดิบหลัก Biosurfactant ที่ผลิตได้สามารถนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องสำอาง ยา การเกษตร ไปจนถึงพลังงานและปิโตรเลียม โดยเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ย่อยสลายได้ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทดแทนสารเคมีสังเคราะห์ที่ใช้กันในปัจจุบัน ผลงานวิจัยนี้ได้พัฒนากระบวนการผลิตไปถึงระดับ Pilot-scale และมีความพร้อมในการขยายสู่ระดับอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของนวัตกรรมสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เกิดขึ้นโดยนักวิจัยไทย​

ภาพ/ข่าว: มหาวิทยาลัยนเรศวร

../../uploads/images/518739563_1229397498980997_8172853146642273051_n_2.jpg
../../uploads/images/518541010_1229397078981039_4453080122625743181_n_3.jpg
../../uploads/images/519403705_1229397535647660_7935523900467323843_n_4.jpg
../../uploads/images/520535120_1229397528980994_3418655519295526613_n_5.jpg
ติดตามข่าวสาร: กองการถ่ายทอดเทคโนโลยีและบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา
โทรศัพท์: 0-5596-8727
Facebook: Division of Technology Transfer & Intellectual Property Management
อีเมล: dtt@nu.ac.th
Line: https://lin.ee/AW6rZ3g